บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 2021-11-10T14:41:03+07:00

บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (เดลต้าฯ) เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการออกแบบ การผลิตและให้บริการธุรกิจโซลูชั่นส์สำหรับการจัดการพลังงานและการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ พัดลมระบายความร้อน อีเอ็มไอ ฟิลเตอร์ และ โซลินอยด์ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ เดลต้าฯ ได้แก่ ระบบจัดการพลังงานสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ ยานยนต์ ระบบงานโทรคมนาคม ระบบงานอุตสาหกรรม สำนักงานอัตโนมัติ อุตสาหกรรมการแพทย์ รวมถึงเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตัวแปลงกระแสไฟฟ้า DC-DC และ Adapter นอกจากนี้ เดลต้าฯ ยังเติบโตในธุรกิจโซลูชั่นสถานีชาร์จประจุไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน Data Center และการจัดการพลังงาน ในระดับภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้ โครงการที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านสมาร์ทกริดของ เดลต้าฯ สามารถสรุปรายละเอียดสำคัญได้ดังต่อไปนี้

รายละเอียด:

เดลต้าฯ ได้รับลิขสิทธิ์เทคโนโลยีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบไร้สายจาก ไวทริซิตี้ (WiTricity) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้านการถ่ายโอนพลังงานแบบไร้สายโดยไม่สัมผัส โดยภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวเดลต้าจะสามารถผลิตและจำหน่ายระบบชาร์จไร้สายสำหรับอุปกรณ์อุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น รถลำเลียงสินค้าอัตโนมัติ (AGV) หุ่นยนต์เคลื่อนที่ และรถยกไฟฟ้า โดย เดลต้าฯ ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ ซึ่งเทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สายสามารถสร้างประโยชน์แก่ระบบอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ความปลอดภัย และความเสถียรในการใช้งาน รวมถึงช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของอุปกรณ์ (Total cost of ownership: TCO) จึงทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีของ WiTricity ช่วยให้เดลต้าสามารถส่งมอบระบบอเนกประสงค์ที่มีประสิทธิภาพออกสู่ตลาดได้

เทคโนโลยีของ WiTricity ช่วยให้สามารถชาร์จไร้สายได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กหรือจับสัมผัสใดๆ และจะเริ่มชาร์จเองอัตโนมัติโดยผู้ใช้งานไม่ต้องคอยควบคุมหรือจัดตำแหน่งให้ตรงแท่นชาร์จ แตกต่างจากขั้วต่อไฟฟ้าของสถานีชาร์จแบบเดิมที่สามารถทำงานผิดพลาดและก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย ซึ่งเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายจะช่วยเพิ่มความเสถียรและความปลอดภัย สามารถติดตั้งจุดชาร์จได้ทั่วบริเวณโรงงานหรือโกดังเพื่อการชาร์จที่สะดวกและถี่ขึ้น ขณะที่หุ่นยนต์หรือยานยนต์เคลื่อนผ่านจุดชาร์จตามที่ต่างๆ ผลิตภัณฑ์ระบบชาร์จไร้สายที่ใช้เทคโนโลยี WiTricity สามารถใช้งานได้กับระดับพลังงานที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับร้อยวัตต์สำหรับหุ่นยนต์เคลื่อนที่ขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดสิบถึงร้อยกิโลวัตต์สำหรับรถยก หรือระดับหลายร้อยกิโลวัตต์สำหรับเครื่องจักรกลหนัก

ที่มา:

รายละเอียดการดำเนินงาน

กฟภ. ร่วมกับ บริษัท Mitsubishi Motor Thailand และ เดลต้าฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อความร่วมมือระหว่าง 3 ฝ่าย ด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) สถานีชาร์จ และแอปพลิเคชั่นของ กฟภ. สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ความร่วมมือของทั้ง 3 ฝ่าย เร่งผลักดันให้เกิดการใช้ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ผ่านการแบ่งปันข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจาก Mitsubishi Motor และที่ตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของ เดลต้าฯ โดยความร่วมมือนี้จะยกระดับประสบการณ์ของผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าชาวไทยผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือของ กฟภ. เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถค้นหาสถานีชาร์จทั่วประเทศได้อย่างสะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น

กฟภ. สนองนโยบายด้านยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ครอบคลุมเส้นทางการคมนาคมในเส้นทางหลักทุก 100 กิโลเมตร ทั่วประเทศ จำนวน 62 สถานี ภายในปี พ.ศ. 2564 เพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าผ่าน PEA’s Mobile Application โดยผู้ใช้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสามารถค้นหาสถานี จองคิว สั่งชาร์จ และหยุดชาร์จได้อย่างง่ายดาย

Mitsubishi Motor เชื่อมั่นว่าจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะผลักดันให้เกิดการขยายจำนวนสถานีชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงรถพีเอชอีวีไปทั่วประเทศไทยอย่างรวดเร็ว เพิ่มความสะดวกสบายคลายข้อกังวลในเรื่องของข้อจำกัดด้านระยะทางการขับขี่ เป็นการส่งเสริมให้ คนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น อีกทั้ง Mitsubishi Motor ยังได้มีการสนับสนุนแผนการส่งเสริมการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวรถยนต์ Mitsubishi Outlander PHVE รถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในโลก สามารถใช้ได้ทั้งพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน ความร่วมมือครั้งนี้ระหว่าง Mitsubishi Motor Thailand กับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งและเป็นองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าอย่าง กฟภ. และ เดลต้าฯ จะช่วยเพิ่มความสะดวก สบายในการค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านแอปพลิเคชั่นของ กฟภ. และช่วยมอบความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ในการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านให้กับผู้ใช้รถยนต์ Outlander PHVE ทั้งนี้ทางบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่ “สบายใจ ไร้กังวล” ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ Outlander PHVE ให้กับลูกค้า ส่วน เดลต้าฯ นั้น มีความสามารถหลัก อันโดดเด่นด้านการแปลงกระแสไฟฟ้าและการจัดการพลังงาน ทำให้สามารถพัฒนาโซลูชั่นการชาร์จประสิทธิภาพสูง พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยที่ผ่านการใช้งานจริงและได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งที่ผ่านมา เดลต้าได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Mitsubishi Motor Thailand รวมถึงผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก โดยความร่วมมือครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้ชาวไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า และสนับสนุนการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงมอบการสนับสนุนด้านเทคนิค โดยสามารถใช้งานผ่าน แอปพลิเคชั่นของ กฟภ. เพื่อค้นหาและเข้าใช้งานเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของเดลต้าที่ครอบคลุม ทั่วไทยได้อย่างง่ายดาย

ด้าน กฟภ. จะให้การสนับสนุนการใช้งานแอปพลิเคชั่นของ กฟภ. และมอบบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าแรงต่ำ ณ สถานที่ติดตั้งจริง (ที่อยู่อาศัยและสำนักงาน) รวมถึงการติดตั้งระบบไฟฟ้า เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ส่วน Mitsubishi Motor Thailand ให้ข้อมูลด้านการตลาดและผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด PHEV ข้อมูลสถานีชาร์จ (สถานที่ตั้งและชนิดของเครื่องชาร์จ) และร่วมพัฒนา แบ่งปันฐานข้อมูลความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าให้กับ กฟภ. ภายหลังการวางจุดตำแหน่งสถานีชาร์จของ เดลต้าฯ ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้แอปพลิเคชั่นของ กฟภ. เพื่อดำเนินการจองสั่งงาน การเริ่มต้น และหยุดชาร์จไฟ ตลอดจนชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น ภายใต้ความช่วยเหลือและสนับสนุนจาก เดลต้าฯ ซึ่ง เดลต้าฯ จะส่งข้อมูลจากเครื่องชาร์จไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ กฟภ. ตามมาตรฐาน OCPP (Open Charge Point Protocol)

ความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง กฟภ. Mitsubishi Motor Thailand และ เดลต้าฯในครั้งนี้ ช่วยสนับสนุนแผนพัฒนาด้านพลังงานไฟฟ้าของรัฐบาลไทย ที่กำหนดเป้าหมายให้มีรถยนต์ไฟฟ้า 1.2 ล้านคัน (ทั้งประเภทปลั๊กอินไฮบริดและใช้แบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว) บนท้องถนนภายในปี พ.ศ. 2579 โดยทั้ง 3 พันธมิตรจะร่วมมือกันเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ขับขี่ชาวไทย ทั้งในเรื่องความรู้พื้นฐานของระบบรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานด้านการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ที่มา:

รายละเอียดการดำเนินงาน

เดลต้าฯ ประเทศไทย ได้ลงทุนในไทยมาอย่างยาวนาน เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิต นอกจากนี้ เดลต้าฯ มีความพร้อมและจะยังคงสนับสนุนเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในส่วนเทคโนโลยีใหม่ เช่น IOT และ 5G รวมไปถึงพลังงานหมุนเวียน พลังงานทดแทน ธุรกิจ EV โดยเฉพาะสถานีชาร์จด้วย

ที่มา:

รายละเอียดการดำเนินงาน

เดลต้าฯ เปิดเผยว่า สำหรับในส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจ EV Charging นั้นบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย 2 ส่วนคือ On Board และ Off Board ซึ่งจะเติบโตควบคู่ไปกับอุตสาหกรรม EV โดยการจำหน่ายที่ชาร์จนั้น หลัก ๆ จะมาจากที่พักอาศัย กว่า 60% ส่วนถัดมาจะเป็นในเรื่องของการให้บริการในที่สาธารณะ และอีก 5% จะเป็นเรื่องของ Highway

ที่มา: