เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz)

รายละเอียด:

Mercedes Benz ร่วมขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz ยกระดับการให้บริการด้านรถยนต์ไฟฟ้าเต็มสูบ ดำเนินการขยายเครือข่ายจุดติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด (Charging Station) ในเฟสแรก กว่า 63 จุดทั่วประเทศ ใน 3 เครือโรงแรมชั้นนำของเมืองไทย ได้แก่ Marriott International Minor Hotels และ Hilton

สถานีอัดประจุไฟฟ้าของ EQ

ที่มา:

รายละเอียด:

Mercedes-Benz EQC 2019 รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้าล้วน (EV) คันแรกของเมอเซเดส-เบนซ์ เผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว วิ่งไกล 450 กิโลเมตรไม่ต้องใช้น้ำมัน

รถยนต์ Mercedes-Benz EQC 2019

ที่มา:

รายละเอียดการดำเนินงาน

Mercedes-Benz ร่วมกับ Contemporary Amperex Technology Co., Limited (CATL) เตรียมสร้างสรรค์เทคโนโลยีแบตเตอรี่สุดล้ำเพื่อรองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Mercedes-Benz ที่จะผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก โดยกำลังเร่งดำเนินกลยุทธ์ “Electric First” ด้วยการใช้ระบบโมดูล และเซลล์แบตเตอรี่ที่ทันสมัยและเป็นกลางทางคาร์บอนของ CATL ผู้นำด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยข้อตกลงระหว่างสองบริษัทครอบคลุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่เต็มรูปแบบ ตั้งแต่เซลล์และโมดูลสำหรับ Mercedes-Benz Cars จนถึงระบบแบตเตอรี่สำหรับ Mercedes-Benz Vans รวมถึงแบตเตอรี่ CATL cell-to-pack (CTP) ที่ไม่ใช้โมดูลแบบเดิม แต่ติดตั้งเซลล์ในแบตเตอรี่โดยตรง

ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ CATL ช่วยให้ Mercedes-Benz สามารถยกระดับการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคุณภาพดีที่สุดทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยทั้งสองฝ่ายได้เริ่มพัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่สำหรับใช้ในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหลายรุ่นภายใน 2-3 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดวงจรการพัฒนาให้สั้นลง เพิ่มระยะทางการวิ่งให้มากขึ้นด้วยการเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานในแบตเตอรี่ และลดเวลาในการชาร์จแบตให้น้อยลง ทั้งนี้ เพื่อให้รถยนต์ไฟฟ้าน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับลูกค้าในเซกเมนต์รถหรู จึงมีการพัฒนารถซีดานหรู Mercedes-Benz EQS ซึ่งเตรียมเปิดตัวในปี 2564 รถรุ่นนี้วิ่งได้ไกลกว่า 700 กิโลเมตร ชาร์จแบต เร็วกว่ารถรุ่นอื่นในปัจจุบันสองเท่า และใช้เซลล์แบตเตอรี่จาก CATL

ที่มา:

รายละเอียดการดำเนินงาน

Mercedes-Benz เป็นเจ้าภาพประกาศความร่วมมือเพื่ออากาศสะอาด (Clean Air Initiative) อย่างเป็นทางการ โดยMercedes-Benz วางเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2573 ร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์จาก Mercedes-Benz ต้องเป็น xEVs ซึ่งหมายถึงรวมทั้งรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งการนำโครงการ Charge to Change มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Clean Air Initiative จะช่วยสร้างความตระหนักและกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศในไทยอย่างต่อเนื่องและได้ผล

ที่มา: