การตอบสนองด้านโหลด (Demand Response: DR)
การตอบสนองด้านโหลด (Demand Response: DR) คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้า ซึ่งอยู่ทางด้านอุปสงค์ (Demand) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นที่เกิดขึ้นในการบริหารจัดการระบบไฟฟ้า หรือเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงราคาค่าไฟฟ้าในช่วงเวลาหนึ่งๆ หรือต่อผลตอบแทน (Incentive) ที่ออกแบบมาเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเปลี่ยนหรือลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ราคาค่าไฟฟ้าสูง หรือในขณะที่ความน่าเชื่อถือของระบบไฟฟ้าอยู่ในสภาวะผิดปกติ
การสั่งการสำหรับการตอบสนองด้านโหลดจากผู้ดูแลระบบ/ผู้จำหน่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ไฟฟ้า สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ ดังนี้
1) ระบบสั่งการด้วยคน (Manual Demand Response System)
สั่งการด้วยคนในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การสั่งการของผู้ดูแลระบบมายังผู้จำหน่ายไฟฟ้าจนถึงผู้ใช้ไฟฟ้าผ่าน ช่องทางการสื่อสารต่างๆ ได้แก่ จดหมาย โทรศัพท์ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเมื่อผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับคำสั่งหรือการร้องขอแล้ว จะพิจารณาตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมตอบสนองด้านโหลดในระดับใด และเลือกใช้อุปกรณ์หรือวิธีการดำเนินการใด จากนั้นจึงสั่งการไปยังผู้ที่ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ให้ปิดหรือปรับการควบคุมการทำงานเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า เช่น ปิดสวิทช์ไฟแสงสว่าง หรือปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้สูงขึ้น
2) ระบบสั่งการแบบกึ่งอัตโนมัติ (Semi-automated Demand Response System)
ใช้การสั่งการด้วยระบบอัตโนมัติจากผู้ดูแลระบบผ่านผู้จำหน่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ไฟฟ้า โดยผู้ใช้ไฟฟ้าจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจเลือกวิธีการดำเนินการ ทั้งนี้ ในการดำเนินการผู้ดูแลระบบจะอาศัยเทคโนโลยีระบบบริหารจัดการพลังงานหรือการเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ ส่งคำสั่งหรือแจ้งการสั่งการการตอบสนองด้านโหลดไปยังหน้ามิเตอร์ของผู้ใช้ไฟฟ้า เมื่อผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับคำสั่งหรือการร้องขอแล้ว จะพิจารณาตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมตอบสนองด้านโหลดในระดับใด และเลือกใช้อุปกรณ์หรือวิธีการดำเนินการใดเช่นเดียวกับในกรณีของระบบสั่งการด้วยคน (Manual Demand Response System)
3) ระบบสั่งการแบบอัตโนมัติ (Automated Demand Response System)
ใช้การสั่งการแบบอัตโนมัติในทุกขั้นตอน โดยระบบคอมพิวเตอร์ส่วนกลางจะติดตามสถานะของระบบโครงข่ายไฟฟ้า สถานะการผลิตไฟฟ้า และสถานะการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา โดยเมื่อระบบประเมินแล้วเห็นความเสี่ยงที่ระดับความเชื่อมั่นของระบบไฟฟ้าต่ำลงกว่าเกณฑ์ที่ผู้ดูแลระบบส่วนต่างๆ ได้ตั้งค่าไว้ หรือประเมินเห็นความจำเป็นในการบริหารจัดการโหลดเพื่อลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ระบบก็จะออกคำสั่งร้องขอการตอบสนองด้านโหลดผ่านระบบสื่อสารมายังคอมพิวเตอร์ลูกข่าย และส่งคำสั่งต่อไปยังระบบควบคุมของผู้ใช้ไฟฟ้าเพื่อปิดหรือปรับการทำงานของกระบวนการผลิตหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ โดยอัตโนมัติ ส่วนผู้ดูแลระบบจะทำงานเพียงตรวจสอบติดตามการทำงานของระบบอัตโนมัติเท่านั้น โดยระบบสามารถอนุญาตให้เปลี่ยนเป็นการควบคุมด้วยคน (Manual Override) ในกรณีฉุกเฉินหรือกรณีที่ระบบมีปัญหาในการทำงาน ทั้งนี้ ในหลายกรณีผู้ใช้ไฟฟ้าจะติดตั้งมิเตอร์อัจฉริยะเพื่อส่งข้อมูลปริมาณการใช้ไฟฟ้าและสถานะการใช้ไฟฟ้ากลับไปยังระบบส่วนกลางเพื่อติดตามผลด้วย
ภาพระบบสั่งการสำหรับการตอบสนองด้านโหลดแบบต่าง ๆ
- เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค
- เพื่อบริหารการใช้งานของโหลด
- เพื่อชะลอการลงทุนและจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- เพื่อหลีกเลี่ยงความคับคั่งของโครงข่ายไฟฟ้า
- เพื่อเพิ่มการใช้ประโยชน์จากพลังงานทางเลือก
- เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบในช่วงสภาวะวิกฤต
- ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่มั่นคงในระบบไฟฟ้า
- เพิ่มประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า
- เพิ่มความมั่นคงและเพิ่มความคล่องตัวให้กับระบบไฟฟ้า
- ลดต้นทุนค่าไฟฟ้า