
การบริหารจัดการความต้องการใช้ไฟฟ้าของเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้ามีปัจจัยสำคัญอะไรบ้าง
ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นพาหนะที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ด้วยปริมาณยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในการอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูง หากไม่มีการบริหารจัดการความต้องการใช้ไฟฟ้าของเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าที่เกิดจากการอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมกันในช่วงเวลาหนึ่ง ก็อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบไฟฟ้ารวมถึงอาจส่งผลให้ระบบไฟฟ้า ไม่สามารถจัดหาไฟฟ้าได้เพียงพอในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งอาจนำไปสู่ความจำเป็นในการลงทุนจำนวนมากในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า และการขยายศักยภาพของระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นเพียง ช่วงสั้น ๆ ในแต่ละวัน ดังนั้นการเตรียมการเพื่อบริหารจัดการความต้องการใช้ไฟฟ้าของเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้นจึงมีความสำคัญยิ่ง
ปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่จะทำให้การบริหารจัดการความต้องการใช้ไฟฟ้าของเครื่องอัดประจุ ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นไปได้ ได้แก่
- เครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า ต้องรองรับการควบคุมการอัดประจุไฟฟ้าจากระยะไกล และมีความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบภายนอก เช่น รองรับการสื่อสารภายใต้โปรโตคอล OCPP เป็นต้น
- มีการเชื่อมโยงและรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้ากับผู้บริหารจัดการระบบไฟฟ้า ซึ่งอาจเชื่อมโยงกันโดยตรง หรือผ่านตัวกลาง เช่น ผู้ให้บริการจัดอัดประจุ (Charge Point Operator หรือ CPO) หรือผู้ให้บริการข้อมูลยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Data Service Provider หรือ EVDSP)
- มีข้อกำหนด เงื่อนไข หรือความยินยอม ให้ผู้บริหารจัดการระบบไฟฟ้าควบคุมการอัดประจุของเครื่องอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าจากระยะไกล ซึ่งโดยทั่วไป ผู้บริหารจัดการระบบไฟฟ้าจะควบคุมการอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าในกรณีที่พิจารณาว่ามีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อระบบไฟฟ้าในภาพรวม