สนพ. จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาความเป็นไปได้และการส่งเสริมธุรกิจ ผู้รวบรวมโหลดภาคเอกชนในเชิงพาณิชย์ รวมถึงการรวบรวมแหล่งพลังงานกระจายศูนย์ประเภทยานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย

วันนี้ (17 ต.ค. 67) คุณจารุวรรณ พิมสวรรค์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการวางแผนและยุทธศาสตร์พลังงาน

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวเปิดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาความเป็นไปได้และการส่งเสริมธุรกิจผู้รวบรวมโหลดภาคเอกชนในเชิงพาณิชย์ รวมถึงการรวบรวมแหล่งพลังงานกระจายศูนย์ประเภทยานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย ณ ห้องกมลทิพย์ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ

เปิดเผยว่า การตอบสนองด้านโหลด (Demand Response หรือ DR) เป็นเทคโนโลยีที่มีต้นทุนต่ำและสามารถสร้างความยืดหยุ่นของระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการใช้ไฟฟ้าของระบบไฟฟ้าโดยรวม รวมถึง DR เป็นเสาหลักที่สำคัญภายใต้แผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสมาร์ทกริดของประเทศไทย ระยะปานกลาง พ.ศ. 2565 – 2574 ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากแผนการขับเคลื่อนฯ ในระยะสั้น เพื่อมุ่งเน้นทิศทางการพัฒนา DR ของประเทศไทยในอนาคต ให้เกิดเป็นธุรกิจการตอบสนองด้านโหลด (DR) และดำเนินการสั่งเรียกมาตรการแบบถาวร (Permanent DR) ให้สามารถใช้งานเป็นผลิตภัณฑ์ในระบบไฟฟ้าได้หลากหลาย สามารถพึ่งพาได้เทียบเคียงได้กับโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และระบบไฟฟ้าแบบรวมศูนย์ต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมา สนพ. ได้ดำเนินโครงการนำร่องการตอบสนองด้านโหลด ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2565 – 2566 เพื่อเป็นการทดสอบนำร่องการใช้งานจริงของโปรแกรม DR ระหว่างการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง เพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาความสามารถในการรวบรวมโหลด ก่อนที่จะนำไปขยายผลพัฒนาแหล่งทรัพยากร DR ในระดับผู้ใช้ไฟฟ้าเชื่อมโยงกับแหล่งทรัพยากรแบบกระจายศูนย์ (DER) รูปแบบอื่น ๆ ในอนาคต

นอกจากนี้ จากนโยบายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทำให้ประเทศไทยมีการผลักดันนโยบายการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่ต้องการพลังงานปริมาณมาก ถือเป็นโหลดการใช้ไฟฟ้าประเภทใหม่และเป็นทรัพยากรแหล่งพลังงานแบบกระจายศูนย์ที่สามารถให้บริการกับระบบไฟฟ้าในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ซึ่งธุรกิจการรวบรวมโหลดยานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นส่วนสำคัญและมีบทบาทในการบริหารจัดการทรัพยากรและการใช้ไฟฟ้าที่จะเปลี่ยนไปจากแนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นทางเลือกสำหรับการดำเนินการ DR ได้อีกด้วย

ดังนั้น การส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดธุรกิจผู้รวบรวมโหลดภาคเอกชนทั้งโหลดผู้ใช้ไฟฟ้าและโหลดยานยนต์ไฟฟ้า จะมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำหน้าที่รวบรวมโหลด รายย่อยจากผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ในปริมาณมาก เพื่อให้เกิดการใช้งาน DR ทดแทนผลิตภัณฑ์ในระบบไฟฟ้าได้อย่างเป็นรูปธรรมและครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าได้ทุกประเภท ซึ่งเป็นทางเลือกสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นให้กับระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการใช้ไฟฟ้าของระบบไฟฟ้าโดยรวมในอนาคตต่อไป